
เห็นประเทศไทยกำลังจะมี Virtual Banking เลยนึกได้ว่ามีบริการแบบ Virtual อีกแบบคือบริการมือถือ อย่างที่รู้ว่าผู้ให้บริการหลักในไทยมี TRUE, AIS และ DTAC ส่วนที่อังกฤษมี EE, Vodafone, O2 และ Three เป็นผู้ให้บริการหลัก
ทำไมต้องมี MVNO ? ลองจินตนาการดูว่า คุณอยากเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว แต่ไม่มีครัว ไม่มีหม้อ … แต่คุณไปขอใช้ครัวป้าแดงแล้วเปิดขายใต้แบรนด์ “ก๋วยเตี๋ยวสุดเฟี้ยว by ตั้ม” ได้ — นั่นแหละ MVNO! แปลเป็นไทยง่ายๆ คือ
“โอเปอเรเตอร์มือถือที่ไม่มีเครือข่ายเป็นของตัวเอง แต่ไปเช่าเครือข่ายคนอื่นมาใช้”
ตัวอย่าง MVNO ดังๆ ในอังกฤษ
MVNO | เช่าเครือข่ายใครใช้ | จุดขายคืออะไร |
---|---|---|
Giffgaff | O2 | สมัครง่าย จ่ายตามใช้ ไม่มีสัญญา |
Smarty | Three | เน็ตไม่อั้นราคาประหยัด |
VOXI | Vodafone | ใช้โซเชียลไม่เสียเน็ต เหมาะกับสาย TikTok |
1pMobile | EE | โทร 1 เพนนีต่อนาที เน็ตก็ 1 เพนนี ถูกสุดติ่ง |
Lebara | Vodafone | โทรต่างประเทศถูกจนน่าตกใจ |
ข้อดีของ MVNO (อยากให้เมืองไทยมีบ้าง!)
✅ ราคาถูกมาก: เพราะไม่ต้องลงทุนสร้างเสาสัญญาณเอง
✅ ไม่มีสัญญาผูกมัด: เบื่อก็ย้าย เปลี่ยนค่ายได้ตลอด ไม่ต้องรอ 12 เดือน
✅ เหมาะกับคนใช้เบาๆ หรือมี Wi-Fi ใช้เยอะ
✅ บางค่ายมีจุดขายเฉพาะ เช่น ฟรีโซเชียล, โทรต่างประเทศถูก ฯลฯ
ข้อเสียของ MVNO
❌ ความเร็วเน็ตอาจไม่เท่าค่ายหลัก – เพราะพี่ใหญ่แอบบีบแบนด์วิธ 🐢
❌ อาจไม่มี 5G หรือฟีเจอร์ขั้นเทพ – อย่าง Wi-Fi Calling, VoLTE
❌ บางค่ายทีม Support ไม่ดี แก้ลูกค้าช้ากว่าค่ายใหญ่
❌ ใช้ได้เฉพาะในประเทศที่เปิดให้มี MVNO เท่านั้น (ซึ่งไทยยังไม่มี 🥲)
แม้ไม่เสา แต่มีใจบริการ ถ้าอยากให้ MVNO มาไทย ฝากแชร์บทความนี้ให้ดังถึง กสทช.
หรือแคปหน้าจอไปส่งให้ CEO ค่ายมือถือดูซะเลย! ตลาดมือถือไทยแข่งกันเดือดแน่นอน