On the job Training or On the job Learning มันใช้ได้ผลจริงๆรึเปล่า เราสอนน้องใหม่ด้วยการโยนพวกเค้าลงทะเลแล้วให้หาวิธีว่ายน้ำเอง เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่?
คำถามหนึ่งจากการสัมภาษณ์งาน “คุณชอบทำงานแบบต้องมีคนมาสอน? หรือคุณเรียนรู้ด้วยตัวเอง?” บริษัทหรือองค์กรนั้นต้องการคนแบบไหนเข้ามา

มีแนวทางศึกษาและสรุปและจำแนกประเภทของวิธีการเรียนรู้ที่พบบ่อยในมนุษย์โดยใช้ VARK model (Visual, Auditory, Reading/Writing, Kinesthetic) หรือแปลเป็นไทย คือ
- Visual Learning : การเรียนรู้ผ่านการมองเห็น เช่น การดูวีดีโอ, ดู slide, ดู Infographic
- Auditory Learning : การเรียนรู้ผ่านการฟัง เช่น audio book, podcast ฟังสัมนา
- Reading/Writing : การเรียนรู้ผ่านการอ่านและจดบันทึก เช่น การอ่านหนังสือ หรือสรุปเนื้อหา
- Kinesthetic : การเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ เช่น ทำการทดลอง ลงมือปฏิบัติ
มนุษย์เราสามารถตามหาวิธีการเรียนรู้ของแต่ละคนได้ เราอาจจะใช้หลายๆวิธี ในหลายๆสถานการณ์ เช่น การเรียนคณิตศาสตร์ ถ้าเรียนแบบฟังครูอย่างเดียว หรือแค่อ่านหนังสือ อาจจะไม่ได้ผล ต้องลองลงมือบวก ลบ คูณ หาร ด้วยตัวเอง สมองถึงจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างตัวเลข และเครื่องหมายต่างๆ จนสามารถหาผลลัพธ์ได้
แต่ถ้าจะเรียนวิชาประวัติศาสตร์ จะให้ต้องย้อนเวลา หรือตามไปตามสถานที่ต่างๆของเหตุการณ์นั้นๆ เพื่อนเรียนรู้วิธีคิด วิถีชีวิต ของคนยุคก่อน ก็ไม่ใช่ที่ การอ่าน การฟัง การจดบันทึกจึงควรจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง
เด็กบางคนฟังคุณครูสอนให้น้องเรียน แล้วเข้าใจหมดทุกอย่างจำได้ กลับอีกคน อาจจะฟังครูแล้วง่วงนอนตลอดเวลา แต่พอครูให้ทำโจทย์กลับตาสว่าง
แล้วถ้าเป็นการทำงานล่ะ วิธีการสอนงานแบบไหนที่ดูจะได้ผลที่สุด ถ้าให้ตอบแบบกำปั้นทุบดิน คือไม่มีวิธีไหนที่ดีที่สุดค่ะ
เช่น ถ้าน้องใหม่มาแบบจบใหม่ ใสกิ๊ก ซีเนียร์มาแนะนำให้น้องๆฟังคร่าวๆ ว่าทีมเราทำงานอะไร โปรดักส์ที่ต้องดูแลเกี่ยวกับอะไร ใครคือกลุ่มลูกค้า วิธีใช้งานคร่าวๆเป็นแบบนี้นะ มีเอกสารคู่มือให้ไว้ตรงนี้ น้องลองไปศึกษาดูนะคะ ให้เวลา 1 เดือน
อีกงานเป็นงานสำหรับซีเนียร์ เช่น บริษัทเรากำลังจะมีผลิตภันฑ์ใหม่ คุณเอาเอกสาร 1st draft นี้ไปลองอ่านดูนะ แล้วอาทิตย์หน้ามาคุยกัน
ใช่ค่ะ ซีเนียร์กับจูเนียร์มีประสบการณ์ต่างกัน น้องใหม่ๆต้องการการสอนงานมากกว่าซีเนียร์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานาน
การเรียนการสอนงานค่อนข้างต่างการเรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย พี่ๆช่วยสอนงานพื้นฐานให้น้องๆได้ แต่อาจจะไม่มีเวลามาคอยช่วยน้องๆได้ตลอดเวลา ถึงจุดๆนึงน้องๆก็ต้องเรียนรู้และมีพัฒนาการของคำถาม On the job training จะเป็นแนวทางต่อไปในอนาคต สำหรับการเอาตัวรอด พี่ๆอาจจะทำได้แค่สอนวิธีว่ายน้ำ เตรียมอุปกรณ์ให้แล้ว ต่อไป น้องๆต้องไปฝีกฝน หัดว่ายน้ำและใช้อุปกรณ์ให้เก่งขึ้น แล้วถ้าเรือล่ม หรือระหว่างทางเจอฉลาม น้องจะแก้ปัญหาได้อย่างไร
ลองมองย้อนกลับไปสมัยเราไปโรงเรียนค่ะ โรงเรียนสามารถสอน คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ สอนเขียนโปรแกรม แต่โรงเรียนไม่สามารถมาสอน วิชาเขียน Python เพื่อใช้สร้างโปรแกรมทำบัญชีที่สามารถออกรีพอร์ตให้ผู้บริหารอ่านได้
โรงเรียนคือสถานที่สอนวิชาพื้นฐานและทักษะที่จำเป็น การบ้านคือการกลับไปทบทวนและนำไปใช้สำหรับวิชานั้นๆ เมื่อเด็กๆจบจากโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย พอได้เจอกับสถานการณ์จริงๆ จึงสามารถไปลองขุดความทรงจำ ความรู้เคยได้เรียนมา เพื่อนำมาประยุกต์และใช้งานต่อไป
ใครตอนเด็กๆไม่ชอบทำการบ้านบ้างคะ??